ทำไมราคาเพชรเปลี่ยนแปลงทุกวัน? เข้าใจ 5 ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาเพชร

1. Carat (กะรัต) – น้ำหนักของเพชร

   กะรัต (Carat) หมายถึงน้ำหนักของเพชร เพชรที่มีน้ำหนักมากกว่า ย่อมมีขนาดใหญ่ขึ้น และด้วยความหายากที่เพิ่มขึ้นตามขนาด ทำให้ราคาเพชรแท้ก็สูงขึ้นแบบก้าวกระโดด ไม่ใช่แค่เพิ่มทีละเท่าตัว เช่น ราคาเพชรแท้ขนาด 0.50 กะรัต อาจมีราคาประมาณ 20,000 ถึง 60,000 บาท ในขณะเดียวกันเพชร 1.00 กะรัต ที่มีคุณภาพใกล้เคียงกัน อาจมีราคาทะลุ 100,000 ถึง 350,000 บาท ได้อย่างสบาย ซึ่งหลายคนอาจไม่ทราบว่า การผลิตเพชรแท้ขนาดใหญ่ที่ยังคงความสมบูรณ์แบบนั้นยากกว่ามาก และนี่คือหนึ่งในเหตุผลที่เพชรขนาด 1 กะรัตขึ้นไป กลายเป็นของหายากที่มีมูลค่าในตลาดสูงมาก

2. Cut (การเจียระไน) – ความงามที่สร้างมูลค่า

   นอกจากกะรัตจะมีผลต่อราคาเพชรแท้ในท้องตลาดแล้ว การเจียระไนที่เกิดขึ้นจากช่างฝีมือก็เปรียบเสมือนการปรุงแต่งให้ราคาเพชรแท้เม็ดนั้น ๆ มีมูลค่าสูงยิ่งขึ้นไปอีก ซึ่งหลายคนเข้าใจว่าเพชรแท้ย่อมสวยอยู่แล้ว แต่นั่นไม่ใช่ความจริงเสมอไป เพชรจะเปล่งประกายหรือหม่นหมอง ขึ้นอยู่กับคุณภาพของการเจียระไน (Cut) มากกว่าสิ่งอื่นใด เนื่องจากเพชรที่ถูกเจียระไนในสัดส่วนที่แม่นยำ จะสะท้อนแสงได้สมบูรณ์แบบ สร้างความแวววาวและเหลี่ยมมุมที่ดึงดูดสายตาในทันที ในทางกลับกัน เพชรที่เจียระไนไม่ดี ต่อให้มีน้ำหนักหรือความสะอาดที่ยอดเยี่ยม ก็อาจดูหมองและไร้ชีวิตชีวา ราคาเพชรแท้เม็ดนั้นก็จะตกลงได้เหมือนกัน โดยระดับของ Cut มาตรฐานสากลจะแบ่งเป็น 5 ระดับ ตั้งแต่ Excellent ไปจนถึง Poor ราคาเพชรแท้ระดับ Excellent อาจมีราคาสูงกว่าระดับ Good ถึง 20 ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ เลยทีเดียว

3. Color (สี) – ความขาวใสที่คุณอาจไม่เคยรู้

   แม้จะเรียกว่า เพชรสีขาว แต่เพชรแท้จริง ๆ มีหลายเฉด แต่ละเฉดสีก็จะมีราคาเพชรแท้ที่ไม่เท่ากัน ซึ่งมีการถูกจัดเกรดจาก D (ไร้สีที่สุด) ไปจนถึง Z (มีสีเหลืองปนชัดเจน) ยิ่งเพชรที่มีความขาวใสมากเท่าไร ราคาเพชรแท้เม็ดนั้น ๆ ก็จะยิ่งสูงขึ้นตามไปด้วย โดยเพชรเกรด D ถึง F ถือว่าไร้สีโดยสมบูรณ์ มีความนิยมสูงในตลาดพรีเมียม และแน่นอนว่าราคาเพชรแท้ก็จะสูงตาม แต่สำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มค่า มองหาเพชรที่มีราคาไม่แพงจนเกินไป เพชรในกลุ่ม G ถึง H อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม เพราะยังให้ความรู้สึกขาวสะอาดในสายตาเรา อีกทั้งยังมีราคาที่สมเหตุสมผล การเลือกเกรดสีที่เหมาะสมกับงบประมาณของคุณนับเป็นอีกหนี่งแนวงทางที่จะช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายโดยไม่ลดทอนความงามของเพชรได้เหมือนกัน

4. Clarity (ความสะอาด) – ความใสไร้ตำหนิ

   เพชรเกิดจากแรงดันและความร้อนใต้ผิวโลกในระยะเวลานับล้านปี เป็นเรื่องธรรมดาที่จะมี ตำหนิภายใน หรือสิ่งเจือปนเล็ก ๆ (Inclusion) ซึ่งไม่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่าเสมอไป เพชรที่มีตำหนิน้อย หรือมองไม่เห็นเลย จะมีราคาเพชรแท้สูงกว่ามาก แต่ที่น่าสนใจ คือเพชรระดับความสะอาด VS1 หรือ SI1 ที่มีตำหนิเล็กมาก มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ก็สามารถดูสวยงามไม่แพ้เพชรระดับ VVS หรือ IF ที่ราคาเพชรแท้แพงกว่าเป็นแสน ดังนั้น การเลือกเพชรที่สมดุลระหว่างความสะอาดและราคา คือกุญแจสำคัญในการซื้ออย่างชาญฉลาด ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว เพชรความสะอาดระดับ FL ถึง IF ย่อมมีราคาเพชรแท้สูงกว่า เพชรที่มีความสะอาดระดับ VVS1 VVS2 VS1 VS2 SI1 และ SI2 โดยราคาเพชรแท้จะลดลงตามลำดับ

5. ใบเซอร์รับรอง (Certificate) – ความน่าเชื่อถือที่วัดเป็นมูลค่าได้

   ใบเซอร์รับรองมีผลต่อราคาซื้อขายเพชรแท้ตามท้องตลาดจริง ๆ สำหรับใครที่ยังไม่ทราบคงต้องบอกว่า ใบเซอร์รับรอง คือเอกสารที่ยืนยันคุณสมบัติของเพชร โดยผ่านการตรวจวิเคราะห์จากสถาบันอัญมณีศาสตร์ระดับโลก เช่น GIA HRD หรือ IGI โดยเฉพาะเพชรที่มาพร้อมใบเซอร์ GIA จะได้รับความไว้วางใจสูงสุดในตลาด มากกว่าเพชร HRD และ IGI และมักมีราคาเพชรแท้สูงขึ้น 10 ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับเพชรที่ไม่มีใบรับรอง แม้คุณสมบัติจะใกล้เคียงกันก็ตาม เนื่องจากเพชรไม่มีใบเซอร์ อาจไม่สามารถระบุความจริงเรื่อง Cut Color หรือแม้แต่ความเป็นเพชรแท้จริง ๆ ได้เลย

6. อัตราแลกเปลี่ยน (Exchange Rate) – มีผลต่อราคาเพชรแท้ในตลาด

   ราคาเพชรแท้ในตลาดก็เหมือนกับราคาทองและน้ำมัน ที่มีความผันผวนไปตามอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา โดยเฉพาะในประเทศที่นำเข้าเพชรจากต่างประเทศเป็นหลัก แบบประเทศไทย ซึ่งไม่ได้เป็นแหล่งผลิตเพชรดิบ (Rough Diamond) เอง แต่ต้องอาศัยการนำเข้าเพชรแท้จากแหล่งค้าส่งในตลาดโลก เช่น เบลเยียม (Antwerp) อินเดีย (Mumbai) อิสราเอล หรือฮ่องกง เนื่องจากเพชรในตลาดโลกซื้อขายด้วย สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) เป็นหลัก ดังนั้น เมื่อร้านค้าหรือผู้นำเข้าเพชรจากต่างประเทศ ต้องชำระเงินเป็นดอลลาร์ ราคาต้นทุนของเพชรแท้ที่นำเข้ามาจะขึ้นหรือลงตามค่าเงินบาท ที่แข็งหรืออ่อนเมื่อเทียบกับดอลลาร์

วิธีเช็กราคาเพชรแท้ที่แท้จริง ไม่ตกเป็นเหยื่อราคาเกินจริง

เมื่อรู้ปัจจัยที่กำหนดราคาเพชรแท้ในท้องตลาดแล้ว สิ่งสำคัญไม่แพ้กัน คือเราจะรู้ได้อย่างไรว่า เพชรที่สนใจอยู่ มีราคาเพชรแท้ที่สมเหตุสมผลแล้ว ผู้ซื้อจำนวนมากตกเป็นเหยื่อของราคาเพชรแท้ที่ถูกปั่นสูงเกินจริง เพียงเพราะขาดความเข้าใจในวิธีการตรวจสอบ วันนี้ Glorious Diamonds เราขอแนะนำแนวทางง่าย ๆ ที่คุณสามารถนำไปใช้ตรวจสอบราคาเพชรแท้ในท้องตลาดได้ทันที โดยพิจารณาจากปัจจัยสำคัญ ดังนี้

1. ตรวจสอบราคาเพชรแท้อ้างอิงจาก Rapaport Price List

   วิธีที่ผู้เชี่ยวชาญและนักลงทุนเพชรใช้กันทั่วโลก คือการอ้างอิงจากราคาเพชรแท้จากราคากลางที่เรียกว่า “Rapaport Price List” ซึ่งเป็นตารางราคาเพชรแท้ที่ถูกอัปเดตทุกสัปดาห์ เพื่อสะท้อนราคาซื้อขายเพชรแท้ในระดับค้าส่ง ผู้ค้าที่มีประสบการณ์มักใช้ Rapaport เป็นฐานราคา ก่อนบวกหรือลดตามคุณสมบัติเฉพาะของเพชรแต่ละเม็ด เช่น สี (Color) ความสะอาด (Clarity) และความหายากในขนาดเฉพาะทาง หากคุณสามารถเข้าถึงข้อมูล Rapaport หรือขอให้ผู้ขายอธิบายว่าราคาเพชรแท้ที่เสนอมาอยู่ระดับใดเมื่อเทียบกับราคากลาง ก็จะช่วยให้คุณเห็นภาพชัดขึ้นว่าเพชรที่คุณสนใจนั้น แพงเกินไปหรือไม่

2. ตรวจสอบ “ใบเซอร์” กับสถาบันที่ออกให้

   อย่างไรก็ตาม ราคาเพชรแท้ที่ดูน่าเชื่อถือจะไม่มีความหมายเลย หากเพชรที่ขายไม่มีหลักฐานยืนยันว่าเป็นของแท้ตามที่กล่าวอ้าง นั่นคือเหตุผลที่ ใบเซอร์ หรือ ใบรับรองเพชร จากสถาบันอัญมณีชั้นนำอย่าง GIA (Gemological Institute of America), IGI หรือ HRD จึงมีบทบาทสำคัญมาก ใบเซอร์จะบอกข้อมูลครบถ้วนเกี่ยวกับคุณสมบัติของเพชรแต่ละเม็ด ตั้งแต่น้ำหนัก สี ความสะอาด ไปจนถึงระดับการเจียระไนที่มีผลต่อความระยิบระยับของตัวเพชรเอง ซึ่งข้อดี คือในยุคนี้ ใบเซอร์สามารถตรวจสอบออนไลน์ได้ง่าย อย่างใบรับรอง GIA จะมีระบบ Report Check ที่เปิดให้ผู้บริโภคกรอกหมายเลขในใบเซอร์ แล้วดูรายละเอียดทั้งหมดบนเว็บไซต์ได้ทันที หากเพชรเม็ดนั้นไม่มีข้อมูล หรือข้อมูลไม่ตรงกับใบเซอร์ แสดงว่าคุณอาจกำลังเผชิญกับของปลอมหรือมีการสลับใบเซอร์เกิดขึ้น ซึ่งเป็นความเสี่ยงที่ไม่ควรมองข้าม

3. เปรียบเทียบราคาเพชรแท้เม็ดเดียวกันในหลายแหล่ง

   การซื้อขายเพชรแท้ก็เหมือนกับสินค้าอื่น ๆ ทั่วไปในตลาด ซึ่งคุณสามารถตรวจเทียบราคาเพชรแท้จากหลายผู้นำเข้าและจำหน่ายได้ เนื่องจากการเปรียบเทียบราคาเพชรแท้เม็ดที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกันจากหลายแหล่ง ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าทั่วไป ร้านออนไลน์ หรือแพลตฟอร์มเพชรที่เปิดเผยข้อมูลครบถ้วน โดยเฉพาะเพชรที่มีรายละเอียดตรงกันทั้ง 4Cs และมีใบเซอร์จากแหล่งที่เชื่อถือได้ จะทำให้คุณสามารถเทียบราคาได้อย่างตรงไปตรงมา ยิ่งหากร้านนั้นมีวิดีโอ 360 องศา หรือภาพเพชรจริงให้ดู ก็จะยิ่งเพิ่มความมั่นใจในการตัดสินใจ

4. ใช้ระบบค้นหาเพชรออนไลน์ที่โปร่งใส

   สมัยนี้เป็นยุคดิจิทัล เทคโนโลยีการซื้อขายหรือตรวจสอบราคาเพชรแท้มีการพัฒนาขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่องทางการเลือกซื้อเพชรผ่านแพลตฟอร์มที่เปิดเผยข้อมูลทุกอย่างให้คุณตรวจสอบได้ด้วยตัวเอง เช่น เว็บไซต์ที่ให้คุณเลือกเพชรจากฐานข้อมูลที่มีใบเซอร์ ตรวจสอบหมายเลข GIA ได้ทันที และมีฟีเจอร์ให้ดูเพชรจริงแบบ 360 องศา เหมือนดูของจริงจากที่บ้าน บางแพลตฟอร์มยังเปรียบเทียบราคาเพชรแท้ให้เสร็จสรรพ คุณจึงไม่ต้องเสี่ยงกับการซื้อเพชรที่ไม่มีข้อมูล หรือเชื่อตามคำพูดของเซลส์เพียงอย่างเดียว

5. พิจารณาข้อมูลโดยรวม ไม่ใช่แค่คำโฆษณา

   การเช็กราคาเพชรให้ได้ราคาที่แท้จริงนั้นไม่ใช่เรื่องซับซ้อน หากคุณมีข้อมูลที่ถูกต้อง และมีเครื่องมือที่เหมาะสม สิ่งสำคัญคืออย่าซื้อเพชรเพียงเพราะคำว่าลดราคา หรือเพราะคำชวนเชื่อจากร้านค้า แต่ควรพิจารณาโดยอิงจากข้อมูลที่ตรวจสอบได้จริง ทั้งในแง่ของราคาเพชรแท้ ใบเซอร์ และคุณภาพที่เปิดเผยชัดเจน เพื่อให้คุณได้เพชรแท้ที่ทั้งสวย คุ้มค่า และตรงกับสิ่งที่คุณคาดหวังอย่างแท้จริง

ทำไมราคาเพชรแท้ของ Glorious Diamonds ถึงมีราคาถูกกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับร้านทั่วไป?

ที่ Glorious Diamonds เราเชื่อว่า “เพชรแท้คุณภาพสูง ไม่จำเป็นต้องมีราคาที่เกินจริง” เราต้องการให้คุณได้เป็นเจ้าของเพชรแท้ในราคาที่สมเหตุสมผลที่สุด โดยไม่ลดคุณภาพแม้แต่นิดเดียว และนี่คือเหตุผลที่ลูกค้าไว้วางใจเลือกเราเป็นที่หนึ่งในการซื้อเพชร

1. ธุรกิจแบบโรงงาน-ผู้จำหน่าย (Factory-to-Customer)

   Glorious Diamonds ดำเนินธุรกิจในรูปแบบโรงงานขายตรงสู่ผู้บริโภค (Factory-to-Customer) ซึ่งหมายความว่า คุณจะได้เพชรในคุณภาพเดียวกับที่ขายในห้างชั้นนำหรือร้านค้าหรู แต่ในราคาเพชรแท้ที่ไม่มีค่าการตลาดแฝง หรือราคาที่บวกผ่านพ่อค้าคนกลางหลายต่อ อีกทั้งโรงงานยังเป็นสมาชิกกับ Sightholder ของ De Beers และ Alrosa ผู้ผลิตเพชรรายใหญ่ของโลก นี่คือสิทธิพิเศษที่เปิดโอกาสให้คุณเข้าถึงเพชรจากแหล่งต้นกำเนิดเพชรอย่างแท้จริง

2. ส่วนลดจากราคากลาง Rapaport สูงถึง 70 เปอร์เซ็นต์

   ไม่ใช่การลดราคาแบบหลอกตา แต่เป็นส่วนลดจากราคาเพชรแท้ที่อ้างอิงตามราคาตลาดโลก สามารถตรวจสอบได้ทุกเม็ด

3. ปริมาณสินค้าจำนวนมาก เพิ่มความยืดหยุ่นเรื่องราคาเพชรแท้

   Glorious Diamonds มีคลังเพชรแท้กว่า 50,000 ถึง 70,000 เม็ด (ส่วนใหญ่เป็นใบเซอร์ GIA มากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์) ทำให้สามารถเลือกปรับราคาเพชรแท้ในแต่ละช่วงได้หลากหลาย และสามารถประหยัดจาก economy of scale ได้ในหลายองค์ประกอบของการดำเนินงาน คุณสามารถเลือกได้ตั้งแต่เพชรน้ำงาม 0.30 กะรัต ไปจนถึงเพชรระดับ 5 กะรัตขึ้นไป ไม่ว่าคุณจะมองหาเพชรไว้สำหรับแหวนหมั้น แหวนแต่งงาน หรือการลงทุนระยะยาว เรามีให้คุณครบ และสามารถจัดส่งได้จริงโดยไม่ต้องรอการสั่งผลิตนาน

4. ความโปร่งใส + เทคโนโลยีในการช่วยตัดสินใจ

   ลูกค้าสามารถค้นหาเพชรผ่านระบบออนไลน์ พร้อมดูใบเซอร์ดิจิทัล และวิดีโอ 360 องศาของเพชรแต่ละเม็ด ชัดเจนในทุกมุม เพื่อช่วยสร้างความมั่นใจว่า คุณซื้อเพชรจริง ในสภาพจริง โดยไม่ถูกบวกราคาเพชรแท้เกินจริงจากราคาตลาดกลาง